การตรวจประเมินลูกในครรภ์

ท้องไม่พร้อม

ม่าม้ามีครรภ์ที่มีสภาวะเสี่ยงต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด โดยควรจะเจอหมอบ่อยมากกว่าม่าม้าตั้งท้องที่ไม่มีภาวการณ์เสี่ยง ซึ่งแม่บางทีอาจได้รับการตรวจเพื่อใส่ความเปลี่ยนไปจากปกติของลูกในท้อง เพื่อช่วยสำหรับเพื่อการคิดแผนดูแล โดยแบบอย่างของกรรมวิธีตรวจประเมินทารกในท้อง อาทิเช่น การตรวจด้วยอัลตราซาวนด์ เป็นการตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง ใช้เพื่อวิเคราะห์การท้อง ความแปลกของเด็กและก็เกลื่อนกลาด รวมถึงสามารถบอกรูปร่างลักษณะรวมทั้งสรีรวิทยาของมดลูก ลูกในท้อง เกลื่อนกลาด สายสะดือแล้วก็น้ำคาวปลาได้โดยปลอดภัยต่อแม่และก็ทารกในท้อง การตรวจกรองเด็กอ่อนกรุ๊ปอาการดาวน์ สามารถทำเป็นหลายแนวทาง อย่างเช่น ตรวจครั้งเดียวในไตรมาสแรก (Combined Test) ทำเป็นตั้งแต่อายุท้อง 11-13 อาทิตย์ โดยการตรวจอัลตราซาวนด์วัดความครึ้มของก้านคอเด็กแบเบาะร่วมกับการวิเคราะห์เลือด ที่สามารถตรวจกรองได้ 85% โดยส่งผลบวกลวง 5% ตรวจครั้งเดียวในไตรมาสที่ 2 (Quadruple Test) ในเรื่องที่ม่าม้ามาฝากครรภ์ข้างหลังไตรมาสแรกสามารถตรวจเลือดในช่วงอายุท้อง 15-20 อาทิตย์ และก็ตรวจกรองได้ 85% โดยส่งผลบวกลวง 5% นิฟตี้เทสต์ (NIFTY Test) เป็นเทคโนโลยีใหม่สำหรับในการตรวจกรองเด็กอ่อนกรุ๊ปอาการดาวน์โดยการตรวจดีเอ็นเอของเด็กแรกเกิดในเลือดแม่ ซึ่งแนวทางลักษณะนี้สามารถตรวจกรองดาวน์ได้สูงขึ้นมากยิ่งกว่า 99% โดยส่งผลบวกลวงน้อยกว่า 1% สามารถตรวจได้เมื่ออายุท้องตั้งแต่ 12 อาทิตย์ขึ้นไป แล้วก็จะรู้ผลด้านใน 2-3 อาทิตย์ข้างหลังตรวจเลือด การเจาะน้ำคาวปลา ตรวจในช่วงอายุท้อง 18-20 อาทิตย์ การตรวจน้ำคาวปลาสามารถนำเซลล์ของเด็กแรกคลอดมาเพื่อใช้ตรวจพินิจพิจารณาโรคต่างๆได้ ยกตัวอย่างเช่น โครโมโซมเปลี่ยนไปจากปกติ ธาลัสซีภรรยา หรือโรคทางพันธุกรรมอื่นๆการตรวจอื่นๆตามข้อคิดเห็นของหมอ อาทิเช่น การตัดชิ้นเนื้อจากเกลื่อนกลาด การเจาะเลือดจากสายสะดือลูกในท้อง การตรวจการดำเนินงานของหัวใจเด็กอ่อน (non-stress test: NST)
การปกป้องคุ้มครองแล้วก็รักษาสภาวะท้องเสี่ยง
การดูแลตนเองของม่าม้ามีครรภ์ที่มีภาวการณ์เสี่ยงมีความหมายเป็นอย่างมากต่อความปลอดภัยของลูกน้อยแล้วก็ตัวแม่เอง การให้ความสนใจในสุขภาพจะช่วยทำให้ม่าม้ามีครรภ์ได้อย่างมีความสุขรวมทั้งทำให้ลูกน้อยมีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง อย่างไรก็ตาม กรรมวิธีดูแลตนเองบางทีอาจต่างๆนาๆในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับสภาวะที่แม่เป็น โดยเหตุนี้ควรต้องขอคำแนะนำแพทย์ถึงแนวทางการที่สมควร โดยปกติ แม่ควรปฏิบัติตัวดังต่อไปนี้ เตรียมตัวก่อนที่จะมีการมีท้องด้วยการตรวจสุขภาพทั้งยังแม่แล้วก็ป๋า ถ้ามีปัญหาสุขภาพให้กระทำการรักษาหรือควบคุมโรคก่อนจะคิดแผนตั้งท้องถัดไป เป็นต้นว่า คนที่มีความดันเลือดสูง ต้องควบคุมความดันเลือดให้เข้าขั้นธรรมดาก่อนมีครรภ์ ถ้าหากมีน้ำหนักตัวมากมาย ควรจะบากบั่นลดหุ่นด้วยการบริหารร่างกายแล้วก็ควบคุมการรับประทานอาหารตั้งแต่ก่อนมีท้อง ถ้าเกิดคิดแผนที่จะตั้งท้อง ควรจะกินกรดโฟลิกล่เค้าหน้า 2-3 เดือน เพื่อคุ้มครองป้องกันความแตกต่างจากปกติในเด็กแบเบาะ ได้แก่ กระดูกสันหลังเว้าแหว่งหรือเปิดในเด็ก
ฝากครรภ์ในทันทีเมื่อรู้ดีว่าตั้งท้อง ควรจะแจ้งประวัติส่วนตัว เรื่องราวโรคที่เป็นให้หมอรู้อย่างถี่ถ้วนเพื่อกำหนดแผนการดูแล และก็มาเจอหมอเป็นระยะตามนัดหมายอย่างสม่ำเสมอ งดเว้นดูดบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ แล้วก็ใช้สิ่งเสพติด เลี่ยงการเดินทางหรือกิจกรรมที่อาจจะก่อให้เป็นผลต่อท้องได้ วัดความดันเลือด ตรวจเยี่ยว แล้วก็ชั่งน้ำหนักเมื่อใดก็ตามมาเจอหมอ เพื่อเฝ้าระวังความผิดแปลกหรือภาวะแทรกซ้อนที่บางทีอาจเกิดขึ้นขณะมีท้อง ควบคุมน้ำหนักตัว อย่าให้มีน้ำหนักตัวมากมายหรือน้อยจนถึงเกินความจำเป็น ม่าม้าที่หรูหราน้ำตาลในเลือดสูง ควรจะควบคุมเรื่องของการรับประทานอาหารแล้วก็บริหารร่างกาย โดยหารือหมอถึงการบริหารร่างกายที่ไม่เป็นผลต่อการตั้งท้อง รวมทั้งหมั่นตรวจติดตามระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตัวเอง ทำจิตใจให้มีความผ่อนคลาย พักให้พอเพียง

ยาขับเลือดhttps://ยาขับเลือดปลอดภัย.com