การดูแลครรภ์เมื่ออายุ 35 ขึ้นไป

ท้องไม่พร้อม

เพื่อเป็นการตรวจวิเคราะห์ทารกในท้องที่มีความผิดธรรมดา สามารถทำเป็นโดยการตรวจน้ำคาวปลา (Amniocentesis) น้ำคาวปลา เป็นของเหลว ใส สีเหลืองอ่อนที่อยู่โอบล้อมทารกในท้อง ใส่อยู่ในถุงน้ำคาวปลาอีกครั้งหนึ่ง น้ำคาวปลาประกอบไปด้วยน้ำ 98% แล้วก็สารต่างๆอีก 2%ซึ่งจะมีเซลล์ของเด็กทารกที่หลุดออกคละเคล้าอยู่ด้วย ทารกในท้องจะลอยอยู่ในน้ำคาวปลา ระหว่างที่มีการมีท้องจำนวนน้ำคาวปลาจะมากยิ่งขึ้นตามการเติบโตของ เด็กแรกคลอด เมื่อมีท้องถึงกำหนด ( 40 อาทิตย์ ) จะมีจำนวนของน้ำคาวปลาราว 1,000 ml ที่ล้อมเด็กแรกคลอดอยู่ น้ำคาวปลาจะไหลเวียนโดยการเคลื่อนไหวตัวของเด็กอ่อน ทุกๆ3 ชั่วโมง
โดยทั่วไปการเจาะน้ำคาวปลาจะเจาะในระยะไตรมาสที่ 2 ของการตั้งท้อง และก็ชี้แนะให้เจาะในหญิงมีท้องที่แก่ 35 ปีขึ้นไปทุกราย แต่หญิงท้องที่แก่น้อยกว่า35 ปี บางทีอาจควรต้องกระทำตรวจน้ำคาวปลาถ้าหากมีข้อชี้ชัด การเจาะน้ำคาวปลาไม่ต้องงดเว้นน้ำงดเว้นของกินก่อนทำ หมอจะทำตรวจท้องโดยจะใช้เครื่องอัลตร้าซาวด์เพื่อคาดการณ์อายุท้องที่ แน่ๆ ปริมาณของเด็กแรกเกิด การเต้นของหัวใจ ท่ารวมทั้งตำแหน่งของเด็กแรกเกิด ตำแหน่งของเกลื่อนกลาด ว่าอยู่ที่ที่ไหนเพื่อเป็นการป้องกันและไม่ให้เข็มแทงไปถูกเด็กแรกเกิด สายสะดือ หรือเกลื่อนกลาด ก่อนเจาะน้ำคาวปลาหมอจะจัดแจงผิวหนังพุงรอบๆที่จะเจาะโดยการทำความสะอาด ด้วยยาฆ่าเชื้อ บางเวลาบางทีอาจต้องใช้ยาชาเฉพาะที่ฉีดใต้ผิวหนัง หมอจะใช้เข็มเล็กๆยาวๆเจาะผ่านฝาผนังพุง ผ่านลงไปที่มดลูก เข้าไปในถุงน้ำคาวปลาแล้วดูดเอาน้ำคาวปลาจำนวน 15 -30 ml ออกมา รวมทั้งห้องปฏิบัตรการจพนำน้ำคาวปลาไปปั่นหาเซลล์ของเด็กอ่อนรวมทั้งเพาะเลี้ยงเซลล์เพื่อ ตรวจค้นความผิดแปลกของโครโมโซมถัดไป การเจาะน้ำคาวปลาใช้เวลาเพียงแค่ 2 –3 นาที ผู้เจ็บป่วยสามารถกลับไปอยู่ที่บ้านได้เลย ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องนอนพักที่โรงหมอ ข้างใน 12 ชั่วโมงร่างกายจะสร้างน้ำคาวปลามาตอบแทนได้ดังเดิม การเจาะน้ำคาวปลาอาจมีความรู้สึกเจ็บราวกับถูกเข็มแทงสัก 2 – 3 วินาที แต่ว่าเมื่อเข็มแทงผ่านลงไปแล้วความรู้สึกนั้นก็จะหายไป ความหวาดกลัวเข็มและก็เกร็งท้องระหว่างที่ทำจะมีผลให้เจ็บเยอะขึ้น บางบุคคลจะมีควมรู้สึกราวกับถูกกดรอบๆท้องน้อยในช่วงเวลาที่มีการดูดน้ำคร่ำคร่าออกไป ภายหลังเจาะเสร็จแล้วบางรายบางทีอาจรู้สึกเกร็งนิดหน่อยการนอนพักสักระยะจะมีผลให้ ผลของการตรวจจะรู้ด้านใน 2 – 3 อาทิตย์ ขึ้นกับการพัฒนาของเซลล์ แล้วก็ขั้นตอนในห้องทดลอง
การเสี่ยงของการเจาะน้ำคาวปลา
1.มีการเสี่ยงเพียงนิดหน่อยที่เข็มจะแทงไปถูกตัวเด็กแรกคลอด เกลื่อนกลาด และก็สายสะดือ
2.มีการแท้ง ~ 0.3 %
3.ติดโรค
4.คลอดก่อนกำหนด
5.บางทีอาจต้องเปลี่ยนแปลงตำแหน่งที่เจาะ ถ้าหากการเจาะทีแรกไม่สามารถที่จะดูดเอาน้ำคาวปลาออกมาได้พอเพียง
6.มีเลือดออกมาจากการฉีกขาดของเกลื่อนกลาด หรือจากเส้นโลหิตที่เกลื่อนกลาด
7.ถ้าเกิดมีเลือดแม่คละเคล้าการแปลผลอะไรบางอย่างบางทีอาจบกพร่อง
จากการเรียนรู้ในกลุ่มของตัวอย่างที่มีขนาดใหญ่พบว่า ไม่ได้มีความแตกต่างอย่างมีความนัยสำทางสถิติสำหรับการแท้งลูกจากการเจาะน้ำคาวปลา การเสี่ยงต่างๆดังที่กล่าวมาข้างต้นมาข้างต้น สามารถลดลงได้แม้ใช้เครื่อง อัลตร้าซาวด์บอกตำแหน่ง และก็หมอมีความชำนิชำนาญ อย่างไรก็ดีป๊ะป๋าและก็แม่ควรจะใส่ใจว่าการเจาะน้ำคาวปลาไม่อาจจะวิเคราะห์ ความพิกลพิการโดยกำเนิดอะไรบางอย่างที่ไม่เกี่ยวข้องกับกรรมพันธุ์ได้ และก็การเจาะน้ำคาวปลาไม่อาจจะค้ำประกันได้ว่าจะได้เด็กอ่อนที่สมบูรณ์แบบ
งานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยรับรองจุดเด่นของการมีท้องในแม่แก่ 2 ประการ เป็น
1. แม่มีความพร้อมเพรียง ทั้งยังด้านความตั้งอกตั้งใจ จิตใจ เศรษฐกิจ สภาพแวดล้อม ครอบครัว การอุทิศในตอนที่จะดูแลลูก
2. อุปการะลูกได้ดิบได้ดี เปรียบจากสุขภาพของลูกเมื่ออายุ 5 ขวบ ลูกของม่าม้าที่แก่มากมาย ดียิ่งกว่าของแม่อายุน้อย ทั้งยังในด้านความเจริญทางร่างกาย ภาษา การเข้าสังคม การได้รับวัคซีน การเจ็บป่วยจากอุบัติเหตุ
แม้กระนั้นอันตรายก็มีไม่น้อย

ยาขับเลือด